สำนักงานเกษตรอำเภอขุขันธ์ ตั้งอยู่เลขที่ 122 ถนนขุขันธ์ - ศรีสะเกษ ตำบลหนองฉลอง อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เริ่มเปิดทำการเมื่อปี พ.ศ. 2511 ผู้ปฏิบัติหน้าที่เกษตรอำเภอคนแรก คือ นายมนตรี เชาวกุล และผู้ดำรงตำแหน่งเกษตรอำเภอขุขันธ์ปัจจุบัน คือ นายเมธี ชินชัย ปฏิบัติหน้าที่เกษตรอำเภอขุขันธ์ ลำดับที่ 9 เนื้อที่ทั้งหมด 11 ไร่ ซึ่งเป็นสัดส่วนการใช้ประโยชน์ที่ชัดเจน ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน ห้องประชุม และ แปลงสาธิตด้านการเกษตร
การบริหารแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มงาน ดังนี้
1. งานส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร ได้แก่ งานส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร องค์กรเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน การสนับสนุนและประสานการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์ขององค์กรเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน การพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น การท่องเที่ยวเชิงเกษตร การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย
ธรรมชาติ
2. งานส่งเสริมและพัฒนาการผลิต ได้แก่ งานส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต การจัดการผลผลิต การพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร การอารักขาพืชภายในจังหวัด งานตามโครงการพระราชดำริและพื้นที่เฉพาะ
3. งานยุทธศาสตร์และสารสนเทศ ได้แก่ การจัดทำแผนงานโครงการส่งเสริมการเกษตร แผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาการเกษตรในจังหวัด ด้านการผลิตพืช การพัฒนาอาชีพของเกษตรกร และส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนเพื่อผนวกเป็นแผนพัฒนาจังหวัด งานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ งานข้อมูลสารสนเทศ งานตามระบบส่งเสริมการเกษตร งานวิจัยและพัฒนา และการพัฒนาบุคลากรในจังหวัด
4. งานอารักขาพืช ได้แก่ วางแผนการดำเนินงานด้านการอารักขาพืชในจังหวัด และดำเนินงานตามแผนงาน โครงการและมาตรการด้านการ อารักขาพืช การเฝ้าระวังการระบาดของศัตรูพืชและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดองศัตรูพืช การถ่ายทอด เทคโนโลยีการอารักขาพืชให้กับเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอและเกษตรกร ให้บริการตรวจ วินิจฉัยศัตรูพืชและให้คำปรึกษา แนะนำเทคโนโลยีการอารักขาพืช รายงานผลการดำเนินงานด้านการอารักขาพืชในจังหวัด
5. งานบริหารทั่วไป ได้แก่ งานธุรการ งานสารบรรณ งานการเงินและบัญชี งานพัสดุและยานพาหนะ และการบริหารงบประมาณ
สำนักงานเกษตรอำเภอขุขันธ์เป็นหน่วยงานที่มุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนาให้เกษตรกรและองค์กรเกษตรกรเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
มุ่งมั่นบริการ ทีมงานแข็งขัน ตั้งมั่นคุณธรรม ผู้นำการเปลี่ยนแปลง
1. เกษตรกรอยู่ดีมีสุขตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
2. เกษตรกรมีส่วนร่วม เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
3. เกษตรกรมีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการทำการเกษตรเพื่อการดำรงชีวิตและการพาณิชย์ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์
4. เกษตรกรได้รับบริการที่ดีและได้รับการสนับสนุนด้านองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรที่เหมาะสมตามสภาพปัญหาและความต้องการ